ล้ำไปอีกขั้น สแกนนิ้วมือ-สแกนหน้า กับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลโดย G-Able
บทนำ
G-Able (จี-เอเบิล) ผู้นำการให้บริการไอทีครบวงจร จับมือกับ Hyper Corp (ไฮเปอร์ คอร์ป) บริษัทชั้นนำด้าน Biometric (เทคโนโลยีชีวภาพ) จากสหรัฐฯ เปิดตัวโซลูชั่นล่าสุด “Biometric Authentication Platform (ไบโอเมตริก ออเธนติเคชั่น แพลตฟอร์ม )” เทคโนโลยีถูกใช้ในการยืนยันตนก่อนเข้าใช้งานระบบเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลจากแฮกเกอร์ในโลกอินเตอร์เน็ต แนะให้เปลี่ยนมาใช้เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เหนือกว่า ประหยัดกว่า และง่ายกว่า
รายละเอียด
เชื่อว่าหลายๆ คนยังคงใช้แค่รหัสผ่าน (Password) เพียงอย่างเดียวในการป้องกันข้อมูลสำคัญๆ อยู่ ระบบ Cyber Security จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะรหัสผ่าน (Password) ที่จำยากที่สุดคือ รหัสผ่านที่เราเปลี่ยนไปเมื่อวานนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนนั้นอาจมีพาสเวิร์ดที่เก่าแก่ระดับ 5 – 10 ปีอยู่และใช้กับหลาย ๆ ช่องทาง ซึ่งถ้าคุณโดนเจาะข้อมูล หรืออาจจะถูกดัก Pasword ผ่านเว็บไซต์ Phishing ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งแล้วล่ะก็ คุณอาจมีสิทธิ์โดนขโมยข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์อื่น ๆ ด้วยก็เป็นได้ !! GABLE
G-Able เผยว่าคนกว่า 21% ใช้พาสเวิร์ดเดิมที่มีอายุอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป และคนกว่า 47% ยังคงใช้พาสเวิร์ดที่มีอายุอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลเป็นอย่างมาก
ซึ่งทาง G-Security ได้จำแนกออกมาว่า วิธีการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลที่เกิดขึ้นมากที่สุดไม่ใช่การโดนผ่านโปรแกรม Ransomware หรือพวก Malware แต่อย่างใด แต่เป็นระบบการโจรกรรมข้อมูลผ่านระบบ Social Engineering หรือพูดง่าย ๆ คือ
" การหลอกเอา Password ผ่านทาง
Social ต่างๆ โดยใช้จิตวิทยานั่นเอง "
เช่น หลอกถามรหัสผ่านโดยเอาของฟรีมาล่อ ซึ่งปัจจุบันเทียบแล้วในจำนวน 5 คน จะมีคนถูกหลอกแบบนี้ถึง 2 คน!!
" ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2
ที่ถูกโจรกรรมข้อมูลเป็นอันดับ 2 ของโลก
และอันดับ 1 ของอาเซียนเลยทีเดียว "
ซึ่งแน่นอนว่า G-Security ได้จับมือกับ ไฮเปอร์ คอร์ป บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีไบโอเมตริกจากสหรัฐอเมริกา สร้างโซลูชั่นช่วยเสริมการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณในชื่อ “Biometric Authentication Platform” ซึ่งจะเป็นระบบที่จะใช้การยืนยันตัวตนโดยใช้ข้อมูลทางชีวมิติส่วนบุคคลก่อนเข้าระบบเช่น ลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ม่านตา ใบหน้า ดีเอ็นเอ เป็นต้น หรือทางพฤติกรรม เช่น ลายเซ็น ท่าเดิน เป็นต้น เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนก่อนเข้าระบบ ปกป้องการโจรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าใช้พาสเวิร์ดเพียงอย่างเดียว และมีความน่าเชื่อถือมากกว่าแบบเดิม โดยได้รับความร่วมมือกับทาง FIDO พัฒนาตัว Authenticator ที่ใช้มาตรฐานพิเศษเพื่อนำมาปลดล็อคข้อมูลผ่านระบบ online ที่เก็บข้อมูล Token แบบเข้ารหัสที่ไม่ได้อยู่บน Server ซึ่งหาก Server โดนโจมตีและขโมยข้อมูลไป เขาก็จะได้ไปเพียงแค่ Public Key ที่สามารถ refresh ได้ทันที และถ้ามือถือหายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนขโมยข้อมูลเพราะถูกเข้ารหัสด้วยวิธีพิเศษที่ไม่สามารถเจาะได้โดยง่าย สามารถป้องกันการ Phishing ได้อีกด้วย งานนี้ปลอดภัย หายห่วงกันไปเลย
พร้อมทั้งยังสามารถนำไปใช้สแกนลายนิ้วมือ (Token) แบบพกพาได้ง่าย ราคาประหยัด และที่สำคัญยังสามารถใช้งานร่วมกับทุกระบบปฏิบัติการบนทุกดีไวซ์ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันอีกด้วย โดยผู้ใช้จะสามารถล็อคอินเข้าระบบโดยการสแกนลายนิ้วมือได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการโดยขโมยรหัสผ่านหรือลดความยุ่งยากในการจดจำรหัสผ่าน เรียกได้ว่าเป็นการเสริมเกราะความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญและความเป็นส่วนตัวขึ้นอีกหนึ่งระดับที่เหนือกว่า ประหยัดกว่า และง่ายกว่า
“ตั้งแต่ต้นปี จีเอเบิลมุ่งลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์อย่างจริงจัง จึงเกิดขึ้นมาเป็นกลุ่มธุรกิจ G-Security ที่ยึด 4 นโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจ คือ 1) Security Consulting Service 2) Security Implementation Service 3) Security Managed Service และ 4) Security Sustainability Service ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้จะมุ่งเน้นไปที่ Security Implementation Service ด้วยการเปิดตัวโซลูชั่น Biometric Authentication Platform เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเบ็ดเสร็จ ครบวงจร พร้อมเตรียมขยายทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความปลอดภัยในโลกไซเบอร์กว่า 50 คน พร้อมตั้งเป้าติดตั้งโซลูชั่นนี้ให้กับกลุ่มธุรกิจการเงิน 3-5 รายภายในสิ้นปี” คุณสุเทพกล่าวเพิ่มเติม
“การยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมเกราะป้องกันองค์กรให้แข็งแกร่งได้สูงสุด เมื่อทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ สำหรับจีเอเบิลเองที่ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทระดับโลกอย่าง HYPR Corp. ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเกราะป้องกันทางไซเบอร์นี้จะป็นเกราะที่แข็งแกร่งที่มั่นคง น่าเชื่อถือ ช่วยยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับทุกองค์กรอย่างแน่นอน” คุณสุเทพกล่าวสรุป
" แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคนที่ใช้งานหลงเชื่อ
ไปกับคำพูดของคนที่เข้ามาหลอกเอา
ข้อมูลส่วนตัวไป ด้วยวิธีการติดต่อโดยตรง
ต่อให้ระบบป้องกันดีขนาดไหนก็ไม่เอาไม่อยู่ครับ "
เครดิต : beartai.com/news/it-thai-news/105883